โครงสร้างภายในของป้ายจะประกอบด้วย 2 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่ ส่วนของไมโครชิป (Microchip) ที่ทําหน้าที่เก็บข้อมูลของวัตถุเช่นรหัสสินค้าและขดลวดขนาดเล็กซึ่งทำหน้าที่เป็นสายอากาศ (Antenna) สําหรับรับส่งสัญญาณคลื่นความถี่วิทยุและสร้างพลังงานป้อนให้ส่วนของไมโครชิป โดยทั่วไปตัวป้ายอาจอยู่ในรูปแบบที่เป็นกระดาษ แผ่นฟิล์ม พลาสติก มีขนาดและรูปร่างต่างๆ กันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัสดุที่จะนําเอาไปติดและมีหลายรูปแบบเช่น บัตรเครดิต เหรียญ กระดุม ฉลาก สินค้า แคปซูล หรือป้าย เป็นต้น ทั้งนี้เราสามารถแบ่งป้ายที่มีใช้งานกันอยู่ได้เป็น 3 ชนิดใหญ่ ๆ ได้แก่ ป้ายแบบแพสทีฟและป้ายแบบกึ่งแพสทีฟ และป้ายแบบแอ็กทีฟ โดยแต่ละชนิดก็จะมีความแตกต่างกันตามการใช้งานราคา โครงสร้างและหลักการทำงาน
นอกจากการแบ่งจากชนิดที่ว่ามาแล้ว เราสามารถที่จะแบ่งประเภทของป้ายจากรูปแบบการอ่านและหรือบันทึกข้อมูลได้เป็น 3 แบบ คือ ป้ายชนิดที่สามารถถูกอ่านและเขียนข้อมูลได้หลายครั้ง (Read–Write) ป้ายชนิดที่เขียนได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นแต่อ่านได้อย่างหลายครั้ง (Write-Once Read-Many หรือ WORM) และป้ายชน ิดอ่านได้เพียงอย่างเดียว (Read-Only)
หรือเรายังสามารถแบ่งชนิดของป้ายตามความถี่ของการใช้งาน เช่นป้ายย่านความถี่ต่ํา (LF) 125-134 กิโลเฮิรตซ์ ป้ายย่านความถี่่สูง (HF) 13.56 เมกะเฮิรตซ์ ป้ายย่านความถี่สูงยิ่ง (UHF) 433 และ 900 เมกะเฮิรตซ์ และป้ายย่านไมโครเวฟ 2.4 กิกะเฮิรตซ์
|